tag:blogger.com,1999:blog-16169699825957258372024-02-08T02:27:26.336-08:00การจัดสัมนาของนักศึกษาคอมพิวเตอร์ธุรกิจนางสาวปรียา เชียงสร้อยhttp://www.blogger.com/profile/05876743724665283291noreply@blogger.comBlogger10125tag:blogger.com,1999:blog-1616969982595725837.post-29140873173825862062008-09-01T10:15:00.000-07:002008-09-01T12:34:26.546-07:00การเข้าร่วมสัมนาครั้งที่ 7การเข้าร่วมสัมมนาในห้วข้อ "ทำธุรกิจอย่างไรให้ประสบผลสำเร็จ" <br />วันจันทร์ ที่ 1 กันยายน 2551 เวลา 9:oo - 12:00 น. ณ. อาคาร D ห้อง 102 คณะวิทยาการจัดการ(วิทยาเขตแม่สา) มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยากรโดย คุณแสวง ชัยวรรณเสถียร<br /><br /> ในการเข้าร่วมสัมมนาได้มีวิทยากรได้มาบรรยาย เกี่ยวกับทำอย่างไรให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ ได้เล่าถึงประสบการณ์ การให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ร่วมกันตอบคำถามแลกเปลี่ยนความคิด และยังมีการพูดเกี่ยวกับธุรกิจด้วย ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมสัมมนา<br /><br /><span style="color:#006600;">ความหมายและความสำคัญของธุรกิจ</span><br />ธุรกิจ (Business) หมายถึง กระบวนการของกิจการทางเศรษฐกิจที่สัมพันธ์เป็นระบบและอย่างต่อเนื่องในด้านการผลิต การซื้อขายแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสินค้าและบริการโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะได้กำไรหรือผลตอบแทนจากกิจกรรมนั้น <br /><br /><span style="color:#006600;">หลักการทำให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ</span><br />มีอยู่ 10 ประการ<br />1.กระหายในความสำเร็จ<br />2.ชอบเสี่ยง<br />3.มีความคิดสร้างสรรค์<br />4.มีความยึดมั่นไม่ยย่อท้อ<br />5.มีความเชื่อมั่น<br />6.มีความสามารถในการตัดสินใจ<br />7.มองการเปลี่ยนแปลงคือ โอกาส<br />8.มีความอดทนต่อความไม่แน่นอน<br />9รู้จักเริ่มต้น และต้องการความสำเร็จที่สมบูรณ์แบบ<br />10.ตระหนักในคุณค่าของเวลา<br /><br /><span style="color:#009900;">4M</span><br />Man บุคคลากร<br />Method วิธีการ<br />Material วัตถุดิบ<br />Machine เครื่องจักร<br /><br /><br /><span style="color:#009900;">TEAM ประกอบไปด้วย</span><br />GOAL เป้าหมายของธุรกิจ ชัดเจน กระชับ ปฎิบัติจริง ตรงประเด็น<br />MAN บุคคลากร มีวิสัยทัศน์ มีประสบการณ์ มีสัมมาทิฐฎิ มีประสิทธิภาพ<br />RULES กรอบแนวความคิด กฎระเบียบ การมีส่วนร่วม มีประชาสัมพันธ์ มีการตรวจสอบและประเมินผล<br /><br /><span style="color:#009900;">หลักการทำธุรกิจมีอยู่ 2 ต</span><br />1.เตรียม การเตรียมการก่อนลงมือทำงาน ทำธุรกิจต่่างๆ<br />2.ตรวจ มีการตรวจเช็คงาน มีการติดตามประเมินผล<br /><br />สำหรับในช่วงท้ายของการสัมมนานั้นก็ได้บรรยายโดย คุณสมบูรณ์ โปตะวนิช โดยเป็นการสรุปทั้งหมดที่ได้กล่าวมาทั้งหมดตั้งแต่ช่วงต้นของการสัมมนา และได้มีการร่วมตอบคำถามของผู้เข้าร่วมสัมมนาและมอบของรางวัล หลังจากนั้นจึงมีการมอบของที่ระลึกให้แก่วิทยากร และกล่าวปิดงานสัมมนาโดยประธานในพิธีนางสาวปรียา เชียงสร้อยhttp://www.blogger.com/profile/05876743724665283291noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1616969982595725837.post-90578462674293535762008-09-01T08:38:00.000-07:002008-09-01T11:09:18.058-07:00การเข้าร่วมสัมนาครั้งที่ 6การเข้าร่วมสัมมนาในห้วข้อ เทคนิคการป้องกันภัยคุกคามของการสมัครงานในยุคปัจจุบัน<br />วันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม 2551 เวลา 9:oo - 12:00 น. ณ. อาคาร D ห้อง 102 คณะวิทยาการจัดการ<br />(วิทยาเขตแม่สา) มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยากรโดย คุณสมบูรณ์ โปตะวนิช<br /><br /> ในการเข้าร่วมสัมนาในครั้งนี้ถือว่ามีโอกาสดีมากสำหรับการเข้าร่วมเพราะมีวิทยากรที่ไม่คิดว่าจะมาคือ คุณณรงค์ ประธานผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรณ์บุคคล ของโอเอชิ ซึ่งน้อยครั้งมากที่ได้เจอท่านได้ฟังความรู้ประสบการณ์ และการแนะนำในการเข้ารับทำงาน ว่าควรทำตัวอย่างไร ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก<br />ความรู้ที่ได้รับพอสังเขป<br /><span style="color:#cc0000;">การเตรียมตัวหางาน<br /></span>การเตรียมตัวหางาน ควรจะต้องเริ่มกันก่อนจะจบการศึกษาคือ ควรจะแวะไปตู้หรือป้ายปิดประกาศของสถานที่ศึกษาที่เรียนอยู่ ว่าจะมีบริษัท ห้างร้านใด ต้องการรับสมัครงานบ้าง สอบถามไปยังเพื่อนรุ่นพี่หรือคนรู็จักกันวามีที่ไหนที่กำลังเปิดรับสมัคร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ควรจะต้องสนอกสนใจจนไม่ถึงไม่มีเวลาอ่านหนังสือสอบ<br /><br /><span style="color:#ff0000;">การหาแหล่งงาน</span><br />1.หนังสือพิมพ์<br />2.สำนักงาน กพ.<br />3.หน่วยบริการจัดหางานของมหาวิทยาลัย<br />4.กรมการจัดหางาน<br />5.ญาติพี่น้อง อาจารย์ บัณฑิตรุ่นพี่ หรือคนรู้จัก<br />6.สมัครงานโดยตรงกับบริษัท<br /><br /><span style="color:#ff0000;">การได้งานถ้าเวลามีการนัดสัมภาษณ์<br /></span>ต้องอย่าตื่นเต้นมากจนเกินไป ตามรายละเอียดทุกอย่าง เบอร์โทรกลับ ที่อยู่ ของสถานที่นัดสัมภาษณ์<br />การสัมภาษณ์งานต้องไม่ตอบคำถามอย่างเดียง บางครั้งต้องมีการบรรยายให้แก่ผู้นัดสัมภาษณ์ด้วย<br /><br /><span style="color:#ff0000;">การเตรียมตัวก่อนไปสัมภาษณ์<br /></span>1.ศึกษาเส้นทางในการไปสัมภาษณ์<br />2.ถามผู้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเงินเดือน อาจจะให้คำตอบว่าตามโครงสร้างขององค์กร<br /><br /><span style="color:#ff0000;">เทคนิคการสมัครงาน</span><br />-แหล่งข้อมูลในการสมัครงาน<br />-เว็บไซต์<br />-ศูนย์จัดหางาน (E-job Center) ของกรมการจัดหางาน<br />-หางานที่ตั่งอยู่ในบริเวณกระทรวงแรงงาน<br />-สำนักงานจัดหางานกรุงเทพ พื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด<br />-หนังสือสมัครงาน<br />-ป้ายรับสมัครงานของสถานประกอบการ<br />-โฆษณาตามหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์<br />-สอบถามคนใกล้ชิดญาติ พี่น้อง<br /><br /><span style="color:#ff0000;">การเตรียมหลักฐานที่ใช้ในการสมัครงาน</span><br />-บัตรประจำตัวประชาชน<br />-ทะเบียนบ้าน<br />-วุฒิการศึกษา<br />-รูปถ่าย 1" หรือ 2" (ถ่ายไม่เกิน 1 ปี)<br />-ประวัติย่อ ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน<br /><br /><br /><span style="color:#ff0000;">ส่วนประกอบของประวัติย่อ (Resume)</span><br />-ที่อยู่ปัจจุบัน<br />-ข้อมูลส่วนตัว ชื่อ สกุล วัน เดือน ปี เกิด<br />-ประสบการณ์ในการทำงาน<br />-วุฒิการศึกษา<br />-ความสามารถพิเศษ<br />-การฝึกอบรมสัมมนา<br /><br /><span style="color:#ff0000;">ข้อระวังในการเขียน ประวัติย่อ (Resume)</span><br />-ไม่เกิน 2 หน้า<br />-ตรวจสอบคำผิด โดยงานทั้งหมดให้เข้าใจก่อน เทคนิคการสมัครงาน<br />-แหล่งข้อมูลในการสมัครงาน<br />-การสมัครงาน<br />-การสัมภาษณ์งาน<br /><br /><span style="color:#ff0000;">การเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน</span><br />-เตรียมตัว พร้อมทั้้งร่างกาย และจิตใจ สดชื่น แจ่มใส<br />-แต่งกายให้สุภาพ สะอาด เรียบร้อย เหมาะสมกาละเทศะ<br />-ตรงต่อเวลา<br />-เตรียมข้อมูลให้พร้อม ทั้งข้อมูลส่วนตัว รู้สถานการณ์ปัจจุบัน<br /><br /><br /><span style="color:#ff0000;">ข้อควรปฎิบัติในการเข้ารับสัมภาษณ์<br /></span>-นั่งรออย่างเรียบร้อยไม่ควรเดินไปเดินมา หรือส่งเสียงดัง<br />-การยิ้ม กล่าวคำสวัสดี<br />-พูดสุภาพ<br />-มีสมาธิ<br />-ควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าแสดงความโกธรให้ปรากฎ<br />-ถ้าผู้สัมภาษณ์เปิดโอกาสให้ซักถามควรซักถาม เกี่ยวกับลักษณะงาน หรือตำเหน่งงาน<br />-ขณะการสัมภาษณ์งานควรมองหน้าผู้สัมภาษณ์<br />-ไม่ควรนั่งไคว้ห้าง<br /><br /><span style="color:#ff0000;">สิ่งที่ไม่ควรปฎิบัติในการสัมภาษณ์</span><br />-ไม่ควรนัดสัมภาษณ์วันละหลายๆ แห่ง<br />-ไม่ควรนำเพื่อน หรือ พ่อ แม่ เข้าไปสัมภาษณ์งานด้วย<br />-ไม่ควรแสดงอาการประหม่า<br />-ไม่ควรแย่งพูดตั่งคำถาม<br /><br /><span style="color:#ff0000;">คำถามที่อาจถูกถามในการสัมภาษณ์งาน</span><br />-คำถามเกี่ยวกับชีวิตครอบครัว เล่าประวัติโดยย่อ<br />-การเรียน การทำกิจกรรม<br />-เคยทำงานอะไรมา ทำไมจึงอยากทำงานที่นี่<br />-ทำไม่จึงลาออกจากที่ทำงานเดิม<br />-คุณต้องการเงินเดือนเท่าไร<br />-มีข้อสงสัยอะไรอยากจะถาม<br /><br /><span style="color:#ff0000;">หน่วยงานในสังกัด<br /></span>-จัดหางานโดยรัฐ<br />-จัดหางานโดยภาคเอกชน<br /><br /><span style="color:#ff0000;">ภายในเชียงใหม่ที่มีงานให้ทำ</span><br />-ภาคการเกษตร เจ้าของกิจการ<br />-ภาคบริการ การจ้างงานต่างๆ<br />-ภาครัฐ กลางภูมิภาค ท้องถิ่น<br />-ภาคเอกชน<br /><br /><span style="color:#ff0000;">ทักษะที่ต้องการ<br /></span>-การสือสารโดยเฉพาะในตำเหน่งประจำสำนักงานต้องสื่อสาร ภาษาอังกฤษได้ดี<br />-มีทักษะใช้คอมพิวเตอร์ที่สามารถตรวจสอบระบบเบื้องต้น<br />-เป็นผู้ที่มีวินัยในการทำงาน<br />-เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน<br /><br /> สำหรับในช่วงท้ายของการสัมมนาก็ได้มีการร่วมตอบคำถามและมอบของรางวัลแก่ผู้ตอบคำถามและได้มอบของที่ระลึกให้แก่วิทยากรโดยประธานในพิธี ซึ่งงานสัมมนาในวันนี้บรรยากาศได้เป็นไปอย่างสนุกสนาน สุดท้ายก็ได้กล่าวปิดงานโดยประธานในพิธีนางสาวปรียา เชียงสร้อยhttp://www.blogger.com/profile/05876743724665283291noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1616969982595725837.post-70833381578558320342008-08-31T08:55:00.000-07:002008-09-01T11:04:04.347-07:00การเข้าร่วมสัมนาครั้งที่ 5การเข้าร่วมสัมนาครั้งที่ 5 เรื่อง เทคโนโลยีการบริหารจัดการงานโรงแรมยุคใหม่<br /><br />วันจันทร์ ที่ 18 สิงหาคม 2551 เวลา 9:00 น - 12:00 น ณ อาคารเรียน D ห้อง D102<br /><br />โดยวิทยากร อ.ทศพล บุญศิริ<br /><br />คณะวิทยาการจัดการ (วิทยาเขตแม่สา) มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่<br /><br />สำหรับการเข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้ได้ความรู้เป็นอย่างมา การบรรยายถ่ายทอดได้สนุกสนาน ท่านวิทยากรมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับหัวข้อในการสัมนาในครั้งนี้อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ<br />อีกด้วย<br /><br /><span style="color:#000099;">คอมพิวเตอร์ในอุตสาหกรรมและท่องเที่่ยว</span><br />ท่องเที่ยว เป็นภาพใหญ่ เช่น ธนาคาร<br /><br /><span style="color:#000099;">ระบบคอมพิวเตอร์</span><br />-ฮาร์ดแวร์ (Hardwere)<br /><br />-ซอฟต์แวร์ (Softwere)<br /><br />-บุคลากร (Peoplewere)<br /><br />-ข้อมูล (Data)<br /><br />-กระบวนการทำงาน (Process)<br /><br /><span style="color:#000099;">ระบบเครือข่าย</span><br />LAN (Local Area Network)<br /><br />MAN (Metropblitan Area Network)<br /><br />WAN (Wide Area Network)<br /><br /><span style="color:#000099;">Introduction</span><br />Hotal background<br />Product<br /><br />1. ห้องในโรงแรมทั้งหมด<br /><br />2. อาหารและเครื่องดื่ม<br /><br />3. เหตุการณ์ต่างๆ งานเลื้ยงต่างๆ<br /><br />- ประชุมนา นา ชาติ เรื่องๆ เดียวสมาคมทันตแพทย์<br /><br />- งานจัดงานเลื้ยงด้านนอก<br /><br />4.กิจกรรมงานว่าง<br /><br /><span style="color:#000099;">กระบวนการ</span><br />1.การจอง walk-in เข้าพักโดยไม่ได้จองล่วงหน้า<br /><br />2.แขกที่เข้าพักอยู่<br /><br />3.การจับจ่ายใช้ในการใช้บริการ<br /><br /><br /><br /><span style="color:#000099;">Reservation การจอง</span><br />1.จำนวนไม่มาก มีการกรอกข้อมูลไม่มาก<br /><br />2.เข้าไปเป็นหมูคณะ<br /><br /><br /><br /><span style="color:#000099;">In-house guest</span><br />1.กระบวนการบันทึกข้อมูล (posting)<br /><br />2.ใบเสร็จ (billing)<br />3.สถานะห้อง (update room status)<br />-ห้องว่าง (vacant)<br />-ห้องไม่ว่าง (occupied)<br />-ห้องชำรุด อุปกรณ์ภายในห้องเสียหาย (out of Order)<br />-งดให้บริการ (out of service)<br /><br /><span style="color:#000099;">ใบเสร็จ (Billing)</span><br />1. Master Bill บิลหลัก ห้องชาร์ท เซอร์วิทชาร์ท<br />2. Extar Bill บิลพิเศษ เช่น ค่าอาหารในมินิบาร์<br />3. Voucher / City ledger เอกสารแทนเงินสด<br /><br /><span style="color:#000099;">Computer in Hospitality<br /></span>1.ระบบการบริหารงานสินทรัพย์ในโรงแรม PMS (Property Management System)<br />2.ระบบจองตั๋วเครื่องบิน GDS (Global Distribution System)<br />3.ระบบจองผ่านศูนย์กลาง CRS (Central Reservation System)<br />4.เครื่องที่ใช้ในโลตัล EPOS (Electronic Point Sale)<br />5.ระบบรายการใช้โทรศัพท์ Call Accounting<br />6.ระบบคีย์การ์ด Electronic Door Locking<br /><br /> สำหรับในช่วงท้ายของการสัมมนาก็ได้มีการร่วมตอบคำถามและมอบของรางวัลแก่ผู้ตอบคำถามและได้มอบของที่ระลึกให้แก่วิทยากรโดยประธานในพิธี ซึ่งงานสัมมนาในวันนี้บรรยากาศได้เป็นไปอย่างสนุกสนาน สุดท้ายก็ได้กล่าวปิดงานโดยประธานในพิธีนางสาวปรียา เชียงสร้อยhttp://www.blogger.com/profile/05876743724665283291noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1616969982595725837.post-64790209599402099362008-08-15T20:25:00.000-07:002008-09-01T10:59:42.535-07:00การเข้าร่วมสัมนาครั้งที่ 4<div align="left">การเข้าร่วมสัมนาหัวข้อ "ล้ำยุคไปกับระบบติดตามด้วยดาวเทียม GPS" (Global Positon System)<br />เมื่อวันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เวลา 13:00-15:00 น. โดยวิทยากรคือ คุณ สิทธิธรรม อู่รอด<br /><br /><span style="color:#ff6600;">ความรู้ที่ได้รับจากการสัมมนาครั้งนี้<br /></span><br />การเริ่มต้นของระบบจีพีเอส<br />ก่อนที่จะมีระบบจีพีเอส เรายังไม่เคยมีเครื่องมือที่นำมาใช้บอกตำเหน่งและทิศทางสมบูรณ์เลย สิ่งที่มนุษย์<br />เริ่มใช้ก็คือ เข็มทิศเท่านั้นที่ใช้บอกทิศทาง สังเกตจากดวงดาว เครื่องมือที่ทันสมัยในยุคอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมนุษย์ได้สร้างขึ้นสำหรับการเดินทางแบบใหม่ชื่อ LORAN ซึ่งใช้คลื่นวิทยุติดตั่งตามพื้นที่ ส่วนต่างๆ ต่อมา<br />ใช้ดาวเทียมเหมือนระบบ GPS ระบบที่เรียกว่า "TRANSIT SYSTEM"หรือ "SATNAV"ปัจจุบันยกเลิกการใช้แล้ว เนื่องจากมีข้อบกพร่องในการบอกตำเหน่ง<br /><br /><strong><span style="color:#ff6600;">ส่วนประกอบของระบบ GPS</span></strong><br />1.ส่วนอวกาศ (Space Segment)(SS)<br />2.ส่วนควบคุม (Control Segment)(CS)<br />3.ส่วนผู้ใช้ (User Segment)(US)<br /><br /><strong><span style="color:#ff6600;">วงโคจรของดาวเทียมจีพีเอส</span><br /></strong>- ลักษณะของวงโคจรของดาวเทียมจีพีเอสมีลักษณะแบบ Non-Geostationary orbit<br />- จำนวน 6 วงโคจร แต่ละวงประกอบด้วยดาวเทียม อย่างน้อยจำนวน 4 ดวง<br />- โคจรเอียงทำมุม 55 องศา กับเส้นศูนย์สูตร<br />- โคจรรอบโลกสูงจากพื้นผิวโลก = เป็นระยะทาง = 20,200=กม. โดยประมาณ =<br />- ซึ่งลักษณะของวงโคจรถูกออกแบบมาให้ทุกพื้นที่บนโลกสามารถมองเห็นดาวเทียม = ได้อย่างน้อย = 4 =ดวง<br /><br /><strong><span style="color:#ff6600;">ภาคพื้นดินสถานีควบคุม(Control Station Segment)</span></strong><br />ส่วนนี้จะคอยควบคุมสั่งการและดูแลดาวเทียม ตรวจตราความเรียบร้อยของระบบ ส่งค่าการแก้ไขปรับต่างๆ เช่น ข้อมูลโคจร ข้อมูลเวลา<br />- สถานีสังเกตการณ์(Monitor Station) จำนวน 5 แห่ง กระจายอยู่ตามจุดต่างๆของโลก ได้แก่ Hawaii,Kwajalein Island,Diego Garcia และ Color Spring<br />- จานส่งสัญญาณภาคพื้นดิน(Ground Antennas)ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 จุด ได้แก่ Ascension Island,Diego Garcia,Kwajalein<br />- ศูนย์บัญชาการ(Master Control Station(MCS)) ตั้งอยู่ฐานทัพอากาศสหรัฐฯSchriever AFB รัฐ Colorado<br /></div><div align="left"><br /><span style="color:#ff6600;"><strong>ประเภทของเครื่องับสัญญาณจีพีเอส สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท</strong><br /></span>- เครื่องรับสัญญาณจีพีเอสแบบรังวัด<br />วิธีการทำงาน คือ นำเครื่องรับแบบรังวัดไปวางที่หนุดที่ต้องการหาตำแหน่งเปรียบเทียบกันเป็นเวลาตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป จากนั้นนำข้อมูลที่ได้จากการรับสัญญาณมาประมวลผลได้เป็นเส้นฐานและนำข้อมูลดังกล่าว มาประมวลผลร่วมกับข้อมูลที่ได้จากการรังวัดตำแหน่งอื่นๆที่ต้องการทราบค่าเพื่อหาค่าพิกัดที่ถูกต้องของตำแหน่งนั้นการทำงานรังวัด</div><p>- เครื่องรับสัญญาณจีพีเอสแบบนำหน<br />เป็นการรับสัญญาณที่เป็นคลื่นวิทยุจากดาวเทียม ในขณะเดียวกันก็สร้างรหัสC/A(Coarse/Acquisition)ขึ้นมาเปรียบเทียบกับรหัสที่ถอดได้จากสัญญาณ เมื่อเปรียบเทียบได้รหัสที่ตรงกันจะทำให้รู้เวลาที่คลื่นวิทยุใช้ในการเดินทางจากดาวเทียมมายังเครื่องรับ ในการหาตำแหน่ง(แบบ 3 มิติ)ต้องวัดระยะทางไปยังดาวเทียมพร้อมกัน 4 ดวง </p><p><strong><span style="color:#ff6600;">หลักการในการบอกตำแหน่งจีพีเอส</span></strong></p><p>การทำงาน GPS แบ่งออกเป็นได้เป็น 5 ขั้นตอน คือ<br />- การรับสัญญาณจากดาวเทียมโดยหลักการรูปสามเหลี่ยมระหว่างดาวเทียมกับเครื่องรับ<br />- GPS วัดระยะโดยใช้เวลาเดินทางของคลื่นวิทยุ<br />- ในดาวเทียมและเครื่องรับจำเป็นจะต้องมีนาฬิกาที่ละเอียดสูงมาก<br />- นอกจากระยะทางแล้วจะต้องทราบตำแหน่งของดาวเทียมที่อยู่ในอวกาศด้วย<br />- ในชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ (Ionosphere) และชั้นบรรยากาศโลก(Atmosphere)ความเร็วคลื่นวิทยุเดินทางได้ช้าลง จึงต้องทำการแก้ไขจุดนี้ด้วย<br /><br /><strong><span style="color:#ff6600;">ความคลาดเคลื่อนของระบบจีพีเอส</span></strong></p><p>ค่าความผิดพลาดในการหาตำแหน่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ<br />- Correctable Errors แก้ไขได้<br />ค่าความผิดพลาดแบบแก้ไขได้ จะเป็นค่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเหมือนๆกันกับเครื่องรับ GPS ทุกเครื่อง ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน<br />-Non-Correctable Errors แก้ไขไม่ได้<br />ส่วนค่าความผิดพลาดที่แก้ไขไม่ได้ จะเป็นค่าความผิดพลาดแบบที่จะไม่มีความสัมพันธ์กันเลย ในระหว่างเครื่องรับทุกเครื่องที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน </p><p>หลังจากที่ได้รับความรู้อย่างมากมายแล้ว ในช่วงท้ายของการสัมมนาก็ได้มีการร่วมตอบคำถามและมอบของรางวัลกันด้วยและมีการมอบของที่ระลึกแก่วิทยากร คุณ สิทธธรรม อู่รอด สุดท้ายจึงได้กล่าวปิดงานสัมมนาโดย คุณธีระวัฒน์ ดำรงค์รักษ์ </p><p> </p>นางสาวปรียา เชียงสร้อยhttp://www.blogger.com/profile/05876743724665283291noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1616969982595725837.post-40709659606023897542008-08-14T21:13:00.002-07:002008-08-14T21:57:20.309-07:00การเข้าร่วมสัมนาครั้งที่ 3การเข้าร่วมสัมมนา เรื่อง ปฎิวัติการสื่อสารด้วยเทคโนโลยี HSPA (Hight Speed Packet Access.)<br />เมื่อวันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2551 9:00-12:00 น.<br /><br /><span style="font-family:arial;"><strong>ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมสัมนาครั้งนี้</strong></span><br /><span style="font-family:arial;"><strong>ความเป็นมาของ HSPA </strong></span><br /> HSPA ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายยุคที่ 3 และเป็นซอฟต์แวร์ที่ได้ทำการยกระดับ โครงข่ายที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้สามารถใช้งานข้อมูลที่แปรผันตามอัตราความเร็วข้อมูลได้ และยังมีความยิ่งใหญ่ เนื่องจากกลุ่มของเทคโนโลยีระบบ HSPA เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่สามารถเลือกการทำงานได้แม้กระทั่งอัตราความเร็วข้อมูลที่มีอัตราความเร็วสูง<br /> HSPA เป็นสิ่งที่เหนือกว่าด้วยการยกระดับซอฟต์แวร์ที่อยู่บน Rel.99 ของมาตรฐาน UMTS การยกระดับนี้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดปัจจัยแฝงของการเชื่อมโยง (Link) และได้รับโดยการใช้ประโยชน์ควบคู่ไปกับจำนวนเทคนิคต่างๆ<br /><br /> <strong><span style="font-family:arial;"> ขีดความสามารถในการสื่อสารข้อมูบลของ HSPA </span></strong><br />HSPA ทำได้โดยการปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งในอุปกรณ์ในกลุ่มเครือข่ายเข้าถึงและอาจมีการเพิ่มอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เพียงเล็กน้อย เพื่อรองรับการสื่อสารข้อมูลด้วยอัตราเร็วที่สูงขึ้นซึ่งถือเป็นข้อจูงใจในเชิงเศรษฐศาสตร์การลงทุน ที่ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีจาก WCDMA ไปเป็น HSPA<br />ด้วย ต้นทุนไม่มากนัก และยังคงใช้ประโยชน์จากสินทร้พย์ที่เป็นอุปกรณ์เครือข่าย WCDMA เดิมได้ทั้งหมดในทางกลับกันก็ได้เพิ่มศักยภาพในการให้บริการสื่อสารข้อมูลอัตราเร็วสูง ซึ่ง HSPA ถือเป็นหนึ่งในมาตรฐานการให้บริการ ในยุค Broadband Wireless Access (BWA) เช่นเดียวกับเทคโนโลยีคู่แข่งอื่นๆ เช่น WiMAX Flash-OFDM<br /><br /> <strong><span style="font-family:arial;">ข้อดีของ HSPA 900 MHz</span></strong> อยู่ที่เป็นคลื่นที่ส่งสัญญาณไปได้ไกลกว่า 2100 MHz ทำให้ลดต้นทุนในการติดตั่งอุปกรณ์ แต่ข้อด้อยก็มีอยู่บ้าง เช่นการทะลุทะลวงของคลื่นสัญญาณอาจจะทำได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับคลื่น 2100 MHz เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่า คลื่น 900 MHz ใช้งานในบริเวณที่ราบ ไม่มีสิ่งกีดขวางมากนัก แต่ 2100 MHz ใช้งานได้ดีในย่านชุมชนที่มีสิ่งกีดขวาง เช่น อาคาร เป็นต้น<br /><br /> <span style="font-family:arial;"><strong>คุณสมบัติของ HSPA</strong></span><br />1. Hi Speed Internet ในปัจจุบันมาตรฐานของการรับส่งข้อมูลเร็วที่สุดยังอยู่ที่เทคโนโลยี EDGE ซึ่งให้ความเร็วประมาณ 160 kbps แต่ HSPA ให้ความเร็วในการโหลดข้อมูลที่ 7.2 Mbps ต่างกัน 45 เท่า<br />2. Vido Call ถือเป็นมาตรฐานเทคโนโลยี 3 G ที่มีในมือถือ โดยคู่สนทนาจะเห็นหน้าซึ่งกันและกัน ผ่านกล้องที่อยู่ด้านหน้าโทรศัพท์มือถือ การใช้งานจริงอาจจะมีการดีเลย์บ้างเป็นบางครั้ง แต่โดยรวมถือว่าใช้งานได้ดีนางสาวปรียา เชียงสร้อยhttp://www.blogger.com/profile/05876743724665283291noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1616969982595725837.post-42854799898805860122008-08-14T12:38:00.000-07:002008-09-01T10:51:19.997-07:00การเข้าร่วมสัมนาครั้งที่ 2<span style="font-family:arial;">การเข้าร่วมสัมนาครั้งที่ 2 เรื่อง <strong>"ถุงนั้นสำคัญฉไหน</strong>"<br />วิทยากรโดย คุณวิฑูรย์ วงค์ทิพย์ นักวิชาการสาธารณสุข และทีมงาน<br />เมื่อวันจันทร์ ที่ 14 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.00 – 12.00 น.<br />ณ โรงละคร D102 อาคารเรียน วิทยาเขตแม่สา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่</span><br /><span style="font-family:arial;"></span><br /><span style="font-family:arial;">เนื่องจากการจัดสัมนาครั้งนี้ กลุ่มของข้าพเจ้าได้ทำการจัดสัมมนาขึ้น งานทุกอย่างถึงจะมีข้อบกพร่อง</span><br /><span style="font-family:arial;">บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานที่ หรือ การเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ แต่การจัดสัมมนาครั้งนี้ก็ผ่านไปด้วยดี</span><br /><span style="font-family:arial;">ซึ่งความรู้ที่ได้รับจากการสัมมนา ในหัวข้อ ถุงนั้นสำคัญฉไหน คือ</span><br /><span style="font-family:arial;"></span><br /><span style="font-family:arial;">ทราบสถิติของการเกิดโรคเอดส์ในปัจจุบัน</span><br /><span style="font-family:arial;">คือจังหวัดใดมีจำนวนประชากรที่ติดเอดส์มากที่สุด สำหรับในประเทศไทย <strong>จังหวัดลำพูน </strong>เป็นจังหวัดที่มีประชากร</span><br /><span style="font-family:arial;">ติดเชื้อเอดส์มากที่สุด รองลงมาคือจังหวัด<strong>เชียงใหม่</strong></span><br /><span style="font-family:arial;"></span><br /><span style="font-family:arial;"><strong>สำหรับถุงยางอนามัย</strong></span><br /><span style="font-family:arial;"><strong><br />ถุงยางอนมัยที่มีการผลิตจำหน่ายในโลกนี้มี 3 ชนิดตามวัสดุที่ใช้ </strong></span><br /><span style="font-family:arial;"><br />1. ชนิดที่ทำจากลำไส้สัตว์ (Skin condom) </span><br /><span style="font-family:arial;"><br />2. ชนิดที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ (rubber condom or latex condom) </span><br /><span style="font-family:arial;"><br />3. ชนิดที่ทำจากPolyurethane (ถุงยางพลาสติก) </span><br /><span style="font-family:arial;"></span><br /><span style="font-family:arial;"><strong>ขั้นตอนการใช้ถุงยางอนามัย </strong></span><br /><span style="font-family:arial;"><strong><br /></strong>1. บรรจงฉีกซองอย่างระมัดระวัง แล้วหยิบออกจากซองอย่างนิ่มนวล ระวังอย่าให้ถุงยางอนามัยสัมผัสกับเล็บหรือของประดับที่มีคม<br />2. ถุงยางอนามัยบรรจุในซองในลักษณะม้วนเป็นรูปวงแหวน ให้รอยม้วนอยู่ด้านนอก คลี่ถุงยางออกมาสัก 1 - 2 เซนติเมตร<br />3. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บีบกระเปาะ(ติ่งตรงปลาย)ไล่ลมออก น้ำมาครอบปลายอวัยวะเพศ (ถ้าหนังหุ้มยาว ต้องรูดขึ้นไปให้พ้นปลายหัว)<br />4. ใช้อีกมือรูดถุงยางขึ้นไปจนถึงโคน (อีกมือยังคงบีบปลายติ่งอยู่)<br />5. ถ้าใส่ถูกต้อง ตรงติ่งต้องแบนไม่มีลมอยู่ภายใน (ถ้าเป็นแบบปลายมา ต้องเหลือปลายถุงยางไว้สัก หนึ่งเซ็นติเมตร)ทั้งนี้เพื่อป้องกันถุงยางอนามัยแตก </span><span style="font-family:arial;"><br />6. ถ้าความหล่อลื่นไม่พอ ก็สามารถทาสารหล่อลื่นเพิ่มเติมได้ แต่ต้องหลังจากสวมใส่แล้ว และสารหล่อลื่นที่ใช้ ต้องเป็นสารที่มีส่วนผสมเป็นน้ำ หรือซิลิโคน เช่น ky - jelly อย่ามักง่าย ใช้วาสลินโดยเด็ดขาด เพราะวาสลินเป็นเจลที่มี petroleum เป็นส่วนประกอบ<br />7. หลังจากมังกรพ่นพิษ ห้ามรอดูผลงาน ห้ามแช่ ต้องรีบถอย ถอนสมอโดยเร็ว ก่อนที่นกเขาจะหลับ ไม่งั้นถุงยางจะหลุดค้างคาในถ้ำ<br />8. ตอนถอนสมอ มือต้องจับขอบปลายส่วนเปิดไว้ด้วย ไม่งั้นถุงยางอาจถูกหนีบออกแต่ตัว แต่เสื้อหลุดได้ และเมื่อออกมาแล้ว ต้องระมัดระวังมืออย่าไปโดนด้านนอก ของถุงยางที่มีสารคัดหลั่งของฝ่ายหญิงอยู่ อาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ (กรณีมีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยา)<br />9. เมื่อถอดออกแล้ว จะทดสอบรอยรั่วได้โดยเอาไปรองน้ำจากก๊อกใส่ถุงยางที่ใช้แล้ว ถ้ารั่วก็จะเห็นได้ </span><br /><span style="font-family:arial;"></span><br /><span style="font-family:arial;"><strong>ประสิทธิภาพของถุงยางอนามัย ในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ </strong></span><br /><span style="font-family:arial;"><br />1. เอดส์ ป้องกันมากกว่า 90%<br />2. ไวรัสตับอักเสบ บี ป้องกันมากกว่า 90%<br />3. หูดหงอนไก่ ไม่ได้ผล หรือป้องกันได้ 10-50%<br />4. หนองในเทียม ป้องกันได้ 50-90%<br />5. หนองในแท้ ป้องกันมากกว่า 90%<br />6. พยาธิในช่องคลอด ป้องกันมากกว่า 90%<br />7. ซิฟิลิส ป้องกันได้ 50-90%<br />8. โรคเริม ป้องกันได้ 10-50%<br />9. แผลริมอ่อน ป้องกันได้ 10-50% </span><br /><span style="font-family:arial;"></span><br /> การสัมมนาในครั้งนี้ทางทีมงานของท่านวิทยากรได้มีการให้ผู้ร่วมสัมมนาเล่นเกมส์ซึ่งได้รับความรู้เป็นอย่างมากด้วยเกี่ยวกับโรคติดต่อ<br /><span style="font-family:arial;"></span> สำหรับในช่วงท้ายของการสัมมนาก็ได้มีการร่วมตอบคำถามและมอบของรางวัลแก่ผู้ตอบคำถามและได้มอบของที่ระลึกให้แก่วิทยากรโดยประธานในพิธี ซึ่งงานสัมมนาในวันนี้บรรยากาศได้เป็นไปอย่างสนุกสนาน สุดท้ายก็ได้กล่าวปิดงานโดยประธานในพิธี<br /><span style="font-family:arial;"></span><br /><span style="font-family:arial;"></span><br /><span style="font-family:arial;"></span><br /><br /><span style="font-family:arial;"></span>นางสาวปรียา เชียงสร้อยhttp://www.blogger.com/profile/05876743724665283291noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1616969982595725837.post-41446648643709529602008-07-13T10:11:00.000-07:002008-07-15T23:54:03.718-07:00การเข้าร่วมสัมนาครั้งที่ 1การเข้าร่วมสัมนาครั้งที่ 1 เรื่อง<span style="color:#000099;"><strong>" การจัดองค์กรให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน "<br /><br /></strong></span>เมื่อ วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม 2551 เวลา 09-00 -12.00 น. โดย วิทยากร<br /><br />คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หนูม้วน ร่มแก้ว<br /><br />ซึ่งการจัดสัมนาครั้งนี้ข้าพเจ้าก็ได้ความรู้ ในเรื่องของการจัดการของ<br />องค์กรได้รับรู้การเล่าประสบการณ์ในการเข้าไปดำเนินชีวิตภายใน<br />องค์กรการทำงาน แนวคิดยุคใหม่ที่จัดขึ้นในองค์กร การประพฤติตนให้<br />ดำรงอยู่ได้อย่างไร การปรับตัวให้สามารถดำเนินและใช้ชีวิตภายในองค์กร<br />ของเราได้อย่างไร การจัดสัมมนาก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ก็มีข้อบกพร่อง<br />หลายๆ อย่างที่ต้องปรับปรุง<br /><br /><strong><span style="color:#ff0000;">ความรู้ที่ได้รับจากการสัมนาครั้งนี้ คือ<br /></span></strong><br /><span style="color:#cc0000;">องค์กร</span> หมายถึง กลุ่มคนจำนวนตั่งแต่สองคนขึ้นไปที่มารวมกันเพื่อทำงานด้วยกันภายใต้โครงสร้างองค์กรที่กำหนดไว้ เพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่งของ<br />กลุ่มที่ตั้งไว้<br /><br /><span style="color:#ff0000;">แนวคิดใหม่เกี่ยวกับการจัดการองค์กรในยุคปัจจุบัน </span><br />การจัดการตนเอง ซึ่งเป็นระบบที่ปรับตัวได้ ยืดหยุ่นได้ ฟื้นฟูตัวเองได้ กลับสู่สภาพเดิมได้ง่าย รู้จักเรียนรู้ด้วยตัวเองและมีปัญญาเป็นของตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ก็สามารถปรับตัวและจัดการตัวเองเสียใหม่จนพัฒนาเป็นระบบที่ซับซ้อนขึ้นได้เอง โดยไม่ต้องมีการบังคับทิศทาง หรือรูปแบบจากภายนอก คุณสมบัติต่อไปนี้เป็นคุณสมบัติของสิ่งมีชีวิต และเป็นคุณสมบัติของผู้นำทุกๆ คน<br /><br /><span style="color:#ff0000;"><strong>ในการสัมนาครั้งนี้ยังได้รู้ถึงคติที่ได้รับไว้สำหรับการดำเนินชีวิติ</strong><br /></span>1. การใช้เงิน - ส่วนตัว,ตอบแทนบุคคลที่มีพระคุณ,เก็บออม,ไว้ฉุกเฉิน<br />2. ครองคน,ครองตน,ครองงาน<br />3. ศิล,สมาธิ,ปัญญา<br />4. ดี,เก่ง,มีงานทำที่มีหลักแหล่ง<br />5. มนุษย์สัมพันธ์,สัมมาคาราวะ<br />6. คนดีคือคนที่รักตัวเองไม่สรางปัญหาให้กับตัวเองนางสาวปรียา เชียงสร้อยhttp://www.blogger.com/profile/05876743724665283291noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1616969982595725837.post-1632883147644892632008-07-04T21:14:00.000-07:002008-07-04T21:19:20.866-07:00จัดบอร์ดสัมนา เรื่อง โรคอ้วน<div align="center"><span style="color:#009900;">การจัดบอร์ดได้เสร็จสมบูรณ์ เรียบร้อยแล้ว </span></div><div align="center"><span style="color:#009900;">การดำเนินงานครั้งนี้ทุกคนภายในกลุ่มได้ให้ความ</span></div><div align="center"><span style="color:#009900;">ร่วมมือกันทุกคนจนงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี</span></div><div align="center"><span style="color:#009900;">แม้การจัดบอร์ดครั้งนี้จะมีปัญหาบ้าง แต่ทุกคนก็ช่วย</span></div><div align="center"><span style="color:#009900;">กันแก้ไขจนงานออกมาสมบูรณ์ตามเป้าหมาย</span></div>นางสาวปรียา เชียงสร้อยhttp://www.blogger.com/profile/05876743724665283291noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1616969982595725837.post-3943359984429351022008-07-04T21:02:00.000-07:002008-07-04T21:03:31.040-07:00จีดบอร์ดสัมนา เรื่อง โรคอ้วนนางสาวปรียา เชียงสร้อยhttp://www.blogger.com/profile/05876743724665283291noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1616969982595725837.post-52139065600116762742008-06-24T20:49:00.000-07:002008-06-24T20:53:57.141-07:00ประชุมหัวข้อการจัดบอร์ดสัมมนา<div align="center"><span style="color:#000099;">เตรียมพร้อมการจัดบอร์ดก่อน</span></div><div align="center"><span style="color:#000099;">คือเลือกหัวข้อเรื่องที่จะใช้ในการจัดบอร์ด</span></div><div align="center"><span style="color:#000099;">สรุปการจัดบอร์ดครั้งนี้จะจัดในหัวข้อเรื่อง</span></div><div align="center"><span style="color:#000099;">"ความอ้วน"</span></div>นางสาวปรียา เชียงสร้อยhttp://www.blogger.com/profile/05876743724665283291noreply@blogger.com0